Let's Relax Spa https://letsrelaxspa.com/th/ Thai spa since 1998 Tue, 26 Dec 2023 04:53:52 +0000 th-TH hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.4 ข้อดีของการนวดคลายเส้นและ 5 จุดนวดที่ต้องระวัง https://letsrelaxspa.com/th/dangerous-massage-points-to-be-aware/ Thu, 05 Oct 2023 04:49:29 +0000 https://letsrelaxspa.com/?p=23858 อาการปวด เมื่อย ตึงกล้ามเนื้อตามร่างกาย เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ในทุกวัย โดยเฉพาะคนวัยทำงาน ที่มักมีพฤติกรรมการนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงการนั่งผิดท่า ซึ่งอาจส่งผลเชื่อมโยงทำให้คอ บ่า ไหล่ มีอาการตึงร้าวไปจนถึงหลัง ซึ่งการนวดบำบัดหรือการนวดคลายเส้น เป็นวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ดี แต่รู้หรือไม่ ว่าการนวดนั้นถ้านวดไม่ถูกวิธีอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ในบทความนี้จะมาสรุปให้รู้ถึง 5 จุดนวดอันตรายที่ต้องระวังก่อนทำการนวด ให้ทุกคนได้รู้และระวังกัน การนวดคลายเส้นคืออะไร? การนวดคลายเส้น เป็นกิจกรรมบำบัดประเภทหนึ่ง ที่ช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลายและช่วยบรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ โดยใช้ทักษะการนวดและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ช่วยในการ บีบ จับ คลึง รีดเส้น เหยียบ ยัน ดัด หรือกดจุดต่าง ๆ บนร่างกาย เพื่อกระตุ้นให้การทำงานของกล้ามเนื้อและระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น จึงช่วยบรรเทาอาการปวด กล้ามเนื้อตึงได้ ซึ่งในปัจจุบัน การนวดคลายเส้นหรือวิธีนวดคลายกล้ามเนื้อสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับเทคนิคและประสบการณ์ของนักนวดแต่ละคน ประโยชน์ของการนวดคลายเส้น • การผ่อนคลายความเครียด : การนวดด้วยสัมผัสที่นุ่มนวลและมีการเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ จะช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินที่ดีตามธรรมชาติ ทำให้สามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้ • ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ : […]

The post ข้อดีของการนวดคลายเส้นและ 5 จุดนวดที่ต้องระวัง appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
การนวดผ่อนคลาย

อาการปวด เมื่อย ตึงกล้ามเนื้อตามร่างกาย เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ในทุกวัย โดยเฉพาะคนวัยทำงาน ที่มักมีพฤติกรรมการนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงการนั่งผิดท่า ซึ่งอาจส่งผลเชื่อมโยงทำให้คอ บ่า ไหล่ มีอาการตึงร้าวไปจนถึงหลัง ซึ่งการนวดบำบัดหรือการนวดคลายเส้น เป็นวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ดี แต่รู้หรือไม่ ว่าการนวดนั้นถ้านวดไม่ถูกวิธีอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ในบทความนี้จะมาสรุปให้รู้ถึง 5 จุดนวดอันตรายที่ต้องระวังก่อนทำการนวด ให้ทุกคนได้รู้และระวังกัน

การนวดคลายเส้นคืออะไร?

การนวดคลายเส้น เป็นกิจกรรมบำบัดประเภทหนึ่ง ที่ช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลายและช่วยบรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ โดยใช้ทักษะการนวดและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ช่วยในการ บีบ จับ คลึง รีดเส้น เหยียบ ยัน ดัด หรือกดจุดต่าง ๆ บนร่างกาย เพื่อกระตุ้นให้การทำงานของกล้ามเนื้อและระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น จึงช่วยบรรเทาอาการปวด กล้ามเนื้อตึงได้ ซึ่งในปัจจุบัน การนวดคลายเส้นหรือวิธีนวดคลายกล้ามเนื้อสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับเทคนิคและประสบการณ์ของนักนวดแต่ละคน

ประโยชน์ของการนวดคลายเส้น

• การผ่อนคลายความเครียด : การนวดด้วยสัมผัสที่นุ่มนวลและมีการเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ จะช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินที่ดีตามธรรมชาติ ทำให้สามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้

• ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ : การนวดคลายเส้นเป็นการบำบัดร่างกายรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยคลายความตึงและบรรเทาความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และลดการอักเสบที่อาจเกิดขึ้น 

• การไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น : การนวดคลายเส้นด้วยการกดตามจุดต่าง ๆ บนร่างกาย จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งเป็นการเพิ่มระดับออกซิเจนในร่างกาย และส่งสารอาหารไปยังเซลล์และเนื้อเยื่อทั่วร่างกายได้ดีขึ้น 

• เพิ่มความยืดหยุ่น : การนวดคลายเส้นเป็นประจำ จะสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเพิ่มช่วงของการเคลื่อนไหวในข้อต่อ ช่วยให้การขยับร่างกายในส่วนต่าง ๆ เป็นไปได้ง่ายขึ้น

• นอนหลับได้ดีขึ้น: การนวดบำบัด มีผลทำให้ระบบประสาทสงบลง จึงช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

จุดนวดอันตราย ที่ต้องระวังเมื่อทำการนวด

รู้ทัน 5 จุดนวดอันตราย ที่ต้องระวังเมื่อทำการนวด

  1. ขมับ คือ ส่วนที่อยู่บริเวณหางคิ้วเหนือกระดูกแก้ม เป็นบริเวณที่กระดูกไม่แข็งแรง ซึ่งการนวดด้วยการบีบหรือกดที่ลงน้ำหนักมากเกินไป อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย
  2. รักแร้ คือ ส่วนที่อยู่ระหว่างแขนกับลำตัว ประกอบด้วยต่อมเหงื่อ เส้นเลือด เส้นประสาท และต่อมน้ำเหลือง ซึ่งการนวดคลายเส้นด้วยการลงน้ำหนักแรง ๆ อาจทำให้เกิดอาการอักเสบต่อเส้นประสาทที่อยู่บริเวณนั้นได้
  3. คอ คือ ส่วนที่ประกอบด้วยกระดูกสันหลังส่วนคอ 7 ชิ้น กล้ามเนื้อ เอ็น และเส้นประสาท คอทำหน้าที่เชื่อมต่อศีรษะกับลำตัว ซึ่งมีจุดชีพจรอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น การกดนวดเป็นเวลานานเกินไปอาจทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอและอาจหมดสติได้ หรือหากกดนวดผิดจุด ยังอาจทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะส่วนอื่น ๆ ได้เช่นกัน 
  4. ท้อง คือ ประกอบไปด้วยอวัยวะภายในหลายประเภท หากนวดด้วยความรุนแรงอาจทำให้เกิดอาการจุกและปวดท้องได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการหลอดเลือดแดงในช่องท้องโป่งพองไม่ควรนวดที่ท้อง เพราะหลอดเลือดอาจปริแตกได้ หรืออาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
  5. กระดูกสันหลัง หรือส่วนอุ้งเชิงกราน จะประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อ เอ็น และเส้นประสาทมากมาย หากผู้นวดไม่มีความเชี่ยวชาญแนะนำให้หลีกเลี่ยงการนวดในบริเวณนี้ เพราะหากใช้แรงกดมากเกินไป อาจทำให้กระดูกสันหลังและอุ้งเชิงกรานเคลื่อนหรือหักได้

 

สำหรับคนที่มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และต้องการนวดผ่อนคลายอย่างถูกวิธี เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้น สามารถมาเลือกใช้บริการได้ที่ Let’s Relax เรามีบริการ นวดผ่อนคลาย ที่ได้มาตรฐานในบรรยากาศที่แสนผ่อนคลาย ตั้งอยู่ใจกลางทองหล่อ และอีกกว่า 20 สาขาในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศไทย สามารถเช็กสาขาที่ให้บริการและจองคิวล่วงหน้าได้ที่

เว็บไซต์ Let’s Relax Spa https://booking.letsrelaxspa.com/book

LINE Official https://lin.ee/QxwQOB1

โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-042-8045

The post ข้อดีของการนวดคลายเส้นและ 5 จุดนวดที่ต้องระวัง appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
วัฒนธรรมการแช่ออนเซ็น มีประโยชน์กับร่างกายอย่างไร? https://letsrelaxspa.com/th/health-benefits-of-onsen/ Thu, 05 Oct 2023 04:34:43 +0000 https://letsrelaxspa.com/?p=23845 การแช่ออนเซ็น เป็นอีกหนึ่งเทรนด์สุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความผ่อนคลายแล้ว ยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลากหลายด้าน สำหรับคนที่สนใจอยากไปแช่ออนเซ็น และอยากรู้ว่าควรแช่ออนเซ็นกี่นาที และมีข้อดียังไงบ้าง บทความนี้จะมาสรุปให้ฟังกัน รู้จักวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็น ออนเซ็น คือบ่อน้ำพุร้อนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทำให้มีคุณสมบัติด้านการรักษาและช่วยฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นเป็นที่นิยมในหลาย ๆ ประเทศรวมถึงในประเทศไทย ทำให้มีสถานที่แช่ออนเซ็นเกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ พร้อมมีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้คอยให้บริการ เพื่อช่วยสร้างความผ่อนคลายและบำบัดร่างกาย การแช่ออนเซ็นมีประโยชน์อย่างไร? การแช่ออนเซ็นนอกจากจะมีประโยชน์ในการสร้างความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจแล้ว ยังเหมาะกับคนในหลายช่วงวัย โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่เกิดความเมื่อยล้าและมีความเครียดสะสม รวมถึงคนที่กำลังมองหากิจกรรมบำบัดร่างกายและจิตใจ สถานที่ให้บริการออนเซ็นกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการในปัจจุบันจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่สามารถช่วยฟื้นฟูร่ายกายของคุณให้ดีขึ้นได้   • ช่วยผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด : การแช่ออนเซ็น เป็นการบำบัดที่ส่งเสริมให้เกิดความผ่อนคลายแก่ร่างกาย และบรรเทาความเครียดในจิตใจได้ • บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ : น้ำที่ใช้ในการแช่ออนเซ็น อุดมด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ   • ฟื้นฟูร่างกายและสุขภาพผิว : น้ำออนเซ็นเต็มไปด้วยแร่ธาตุตามธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รวมถึงอุณหภูมิในบ่อออนเซ็น ยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ผิวมีเลือดฝาดหรืออมชมพู ดูสุขภาพดี  • การล้างพิษ : […]

The post วัฒนธรรมการแช่ออนเซ็น มีประโยชน์กับร่างกายอย่างไร? appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
วัฒนธรรมการแช่ออนเซ็น มีประโยชน์กับร่างกาย

การแช่ออนเซ็น เป็นอีกหนึ่งเทรนด์สุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความผ่อนคลายแล้ว ยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลากหลายด้าน สำหรับคนที่สนใจอยากไปแช่ออนเซ็น และอยากรู้ว่าควรแช่ออนเซ็นกี่นาที และมีข้อดียังไงบ้าง บทความนี้จะมาสรุปให้ฟังกัน

รู้จักวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็น

ออนเซ็น คือบ่อน้ำพุร้อนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทำให้มีคุณสมบัติด้านการรักษาและช่วยฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นเป็นที่นิยมในหลาย ๆ ประเทศรวมถึงในประเทศไทย ทำให้มีสถานที่แช่ออนเซ็นเกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ พร้อมมีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้คอยให้บริการ เพื่อช่วยสร้างความผ่อนคลายและบำบัดร่างกาย

การแช่ออนเซ็นมีประโยชน์อย่างไร?

การแช่ออนเซ็นนอกจากจะมีประโยชน์ในการสร้างความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจแล้ว ยังเหมาะกับคนในหลายช่วงวัย โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่เกิดความเมื่อยล้าและมีความเครียดสะสม รวมถึงคนที่กำลังมองหากิจกรรมบำบัดร่างกายและจิตใจ สถานที่ให้บริการออนเซ็นกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการในปัจจุบันจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่สามารถช่วยฟื้นฟูร่ายกายของคุณให้ดีขึ้นได้  

• ช่วยผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด : การแช่ออนเซ็น เป็นการบำบัดที่ส่งเสริมให้เกิดความผ่อนคลายแก่ร่างกาย และบรรเทาความเครียดในจิตใจได้

• บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ : น้ำที่ใช้ในการแช่ออนเซ็น อุดมด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ  

• ฟื้นฟูร่างกายและสุขภาพผิว : น้ำออนเซ็นเต็มไปด้วยแร่ธาตุตามธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รวมถึงอุณหภูมิในบ่อออนเซ็น ยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ผิวมีเลือดฝาดหรืออมชมพู ดูสุขภาพดี 

• การล้างพิษ : น้ำออนเซ็น มีคุณสมบัติช่วยในการล้างพิษ โดยจะไปกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ตามธรรมชาติของร่างกาย ช่วยให้รอยช้ำต่าง ๆ จางลงได้

• การนอนหลับ : การแช่ออนเซ็น เป็นกิจกรรมที่ผสมผสานระหว่างความผ่อนคลายความเครียด และช่วยคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลให้นอนหลับได้ดีมากขึ้น

แช่ออนเซ็นต้องแช่กี่นาที

เราควรแช่ออนเซ็นกี่นาที เพื่อประสิทธิภาพที่ดีต่อร่างกาย?

สำหรับคำถามที่หลายคนสงสัยว่าเราควรแช่ออนเซ็นกี่นาทีดี? สำหรับระยะเวลาในการแช่ออนเซ็นอย่างเหมาะสมนั้น จะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของน้ำในแต่ละสถานที่ ซึ่งหากอุณหภูมิน้ำอยู่ที่ประมาณ 36 องศาเซลเซียส แนะนำว่าให้แช่น้ำประมาณ 30-40 นาทีโดยประมาณ และไม่ควรนานกว่านั้น แต่หากอุณหภูมิน้ำสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ก็ไม่ควรแช่น้ำเกิน 5-10 นาที เพราะอาจส่งผลกระทบถึงร่างกายได้

การเตรียมตัวก่อนแช่ออนเซ็นที่ถูกต้อง

1. ถอดเสื้อผ้าและเครื่องประดับออกทุกชิ้น โดยสามารถนำไปจัดเก็บไว้ในตู้เก็บของให้ปลอดภัย

2. ชำระล้างร่างกายให้สะอาด และงดการทาครีมบำรุงผิวก่อนลงแช่ออนเซ็น

3. สำหรับคนผมยาวควรมัดหรือเกล้าผมให้เรียบร้อย

4. ก่อนลงไปแช่ออนเซ็น ควรลงไปละครึ่งตัว เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพอุณหภูมิให้เข้ากับน้ำก่อน จากนั้นค่อย ๆ หย่อนตัวลงบ่อ

5. ไม่นำอาหารหรือเครื่องดื่มไปในบ่อออนเซ็น

6. ระวังเรื่องการส่งเสียงดัง ไม่กระโดด ว่ายน้ำหรือสาดน้ำในบ่อ

 

สำหรับคนที่รู้สึกเหนื่อยล้าร่างกาย และกำลังมองหาสถานที่ผ่อนคลายด้วยการแช่ออนเซ็น สามารถแวะมาได้ที่ Let’s Relax Spa ซึ่งนอกจากบริการนวดสปาแล้ว เรายังเป็นสถานที่แช่น้ำ ออนเซ็นกรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ใจกลางทองหล่อ ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอย่างเหนือระดับ และจิตวิญญาณแห่งความสงบ สามารถเช็กสาขาที่ให้บริการและจองคิวล่วงหน้าได้ที่

• เว็บไซต์ Let’s Relax Spa https://booking.letsrelaxspa.com/book

• LINE Official https://lin.ee/QxwQOB1

• โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-042-8045

The post วัฒนธรรมการแช่ออนเซ็น มีประโยชน์กับร่างกายอย่างไร? appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
ปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ แก้ง่าย ๆ แค่รู้สิ่งนี้! https://letsrelaxspa.com/th/cause-of-insomnia-from-muscle-pain/ Thu, 05 Oct 2023 04:21:47 +0000 https://letsrelaxspa.com/?p=23827 ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียนหรือวัยทำงานก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด เพราะสามารถช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายจากความเครียดทั้งปวง ทั้งยังทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้ฟื้นฟู และพร้อมสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในวันถัดไป แต่บางคนกลับประสบกับปัญหาใหญ่อย่างอาการปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ ทำให้พักผ่อนได้ไม่เต็มอิ่ม ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น และไม่สามารถทำกิจกรรมในวันรุ่งขึ้นได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบกับเรื่องอื่น ๆ ตามมา และเพื่อให้คุณสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่ม ไม่ต้องทนกับอาการปวดเมื่อยอีกต่อไป วันนี้เราจะพาไปดูสาเหตุของการเกิดอาการปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ พร้อมวิธีแก้อาการนี้อย่างได้ผลและปลอดภัยต่อสุขภาพกัน   อาการปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ เกิดจากสาเหตุใดบ้าง? ใครที่มีอาการนี้ บอกเลยว่าอย่านิ่งนอนใจไป เพราะนอกจากจะนอนหลับได้ไม่เต็มอิ่มจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันแล้ว อาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวยังอาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยากจะรักษาในอนาคต ซึ่งโดยส่วนใหญ่ อาการปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ มักเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ โรคออฟฟิศซินโดรม โรคออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการอักเสบและรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ โดยส่วนที่มักจะมีอาการปวด ได้แก่ คอ หลัง บ่า ไหล่ แขน และอาจมีอาการเหน็บชาร่วมด้วย หากใครมีอาการเหล่านี้ แนะนำว่าให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีจะปลอดภัยที่สุด หมอนและที่นอนไม่เหมาะสมกับสรีระ คนส่วนมากมักมองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก จะนอนท่าไหน ใช้หมอนหรือที่นอนอะไรก็คงไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่รู้ไหมว่าท่านอน หมอน และที่นอน ไม่ว่าจะเป็นการนอนหมอนที่สูงหรือเตี้ยเกินไป รวมถึงที่นอนที่ไม่สามารถรองรับน้ำหนักและสรีระได้ไม่ดีพอ หรือท่านอนที่ผิดหลักการยศาสตร์ […]

The post ปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ แก้ง่าย ๆ แค่รู้สิ่งนี้! appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
สาเหตุอาการปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ

ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียนหรือวัยทำงานก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด เพราะสามารถช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายจากความเครียดทั้งปวง ทั้งยังทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้ฟื้นฟู และพร้อมสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในวันถัดไป แต่บางคนกลับประสบกับปัญหาใหญ่อย่างอาการปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ ทำให้พักผ่อนได้ไม่เต็มอิ่ม ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น และไม่สามารถทำกิจกรรมในวันรุ่งขึ้นได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบกับเรื่องอื่น ๆ ตามมา

และเพื่อให้คุณสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่ม ไม่ต้องทนกับอาการปวดเมื่อยอีกต่อไป วันนี้เราจะพาไปดูสาเหตุของการเกิดอาการปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ พร้อมวิธีแก้อาการนี้อย่างได้ผลและปลอดภัยต่อสุขภาพกัน

 

อาการปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ เกิดจากสาเหตุใดบ้าง?

ใครที่มีอาการนี้ บอกเลยว่าอย่านิ่งนอนใจไป เพราะนอกจากจะนอนหลับได้ไม่เต็มอิ่มจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันแล้ว อาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวยังอาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยากจะรักษาในอนาคต ซึ่งโดยส่วนใหญ่ อาการปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ มักเกิดจากสาเหตุเหล่านี้

โรคออฟฟิศซินโดรม

โรคออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการอักเสบและรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ โดยส่วนที่มักจะมีอาการปวด ได้แก่ คอ หลัง บ่า ไหล่ แขน และอาจมีอาการเหน็บชาร่วมด้วย หากใครมีอาการเหล่านี้ แนะนำว่าให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีจะปลอดภัยที่สุด

หมอนและที่นอนไม่เหมาะสมกับสรีระ

คนส่วนมากมักมองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก จะนอนท่าไหน ใช้หมอนหรือที่นอนอะไรก็คงไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่รู้ไหมว่าท่านอน หมอน และที่นอน ไม่ว่าจะเป็นการนอนหมอนที่สูงหรือเตี้ยเกินไป รวมถึงที่นอนที่ไม่สามารถรองรับน้ำหนักและสรีระได้ไม่ดีพอ หรือท่านอนที่ผิดหลักการยศาสตร์ ก็ล้วนแต่ส่งผลต่อคุณภาพการนอนและเป็นสาเหตุของการปวดเมื่อยได้ทั้งสิ้น

ได้รับบาดเจ็บจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ

หลาย ๆ กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเรา อาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อและทำให้รู้สึกปวดเมื่อยได้ เช่น การเล่นกีฬา การออกกำลังกาย การลุกผิดท่า หรือการประสบอุบัติเหตุ หากเจ็บเป็นเวลานานและไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจส่งผลถึงการทำงานของกล้ามเนื้อในระยะยาวได้

กล้ามเนื้อยึดตึงจากสาเหตุอื่น ๆ

ข้อสุดท้ายคือกล้ามเนื้อยึดตึงจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น อายุ การนั่งหรือยืนนานเกินไป การขาดวิตามินบางชนิด และต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ดังนั้น อย่าลืมหมั่นสังเกตตัวเองและปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม เพื่อลดปัญหาปวดเมื่อยตามตัวและช่วยให้คุณมีสุขภาพกายที่ดีอย่างยั่งยืน

ปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับแก้อย่างไรดี

วิธีแก้อาการปวดเมื่อยเพื่อให้กลับมานอนหลับได้เต็มอิ่มอีกครั้ง

รู้แล้วว่าอาการปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับในตอนกลางคืนมีสาเหตุมาจากอะไร หากอยากหายจากอาการเหล่านี้ ก็ไม่ยากอย่างที่คิด สามารถแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ถูกวิธี และปลอดภัยต่อร่างกายด้วย 5 วิธีง่าย ๆ ได้แก่

• ปรับท่านอนและเปลี่ยนเครื่องนอน ทั้งหมอนและที่นอนให้สามารถรองรับกับสรีระได้ดีขึ้น

• ใช้ยาบรรเทาอาการปวด ทั้งยานวดกล้ามเนื้อและยาคลายกล้ามเนื้อแบบรับประทาน

• ออกกำลังกายด้วยการยืดกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อยและป้องกันการเกิดตะคริว

• กรณีที่ปวดเมื่อยจากอาการบาดเจ็บ ควรรับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี

• เข้ารับการนวดโดยหมอนวดมืออาชีพในสปาที่ได้มาตรฐาน ซึ่งนอกจากจะทำให้หายจากอาการปวดเมื่อยแล้ว ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดและหลับสบายขึ้นอีกด้วย

ปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ ไม่มีเวลาไปนวดตอนกลางวัน ต้องการใช้บริการ สปาปิดดึก แวะมาใช้บริการได้ที่ Let’s Relax Spa ให้บริการนวดหลากหลายรูปแบบโดยหมอนวดมืออาชีพ เชี่ยวชาญการแก้อาการปวดเมื่อยอย่างตรงจุด ให้คุณหายปวดเมื่อยในบรรยากาศสุดผ่อนคลายที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนโดยเฉพาะ สามารถเช็กสาขาที่ให้บริการและจองคิวล่วงหน้าได้ที่

เว็บไซต์ Let’s Relax Spa https://booking.letsrelaxspa.com/book

LINE Official https://lin.ee/QxwQOB1  

โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-042-8045

The post ปวดเมื่อยตามตัวจนนอนไม่หลับ แก้ง่าย ๆ แค่รู้สิ่งนี้! appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
จบทุกปวด ด้วยการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าที่ตอบโจทย์! https://letsrelaxspa.com/th/fact-about-electric-massager/ Mon, 18 Sep 2023 09:07:59 +0000 https://letsrelaxspa.com/?p=23622 อาการปวดเมื่อยเป็นเรื่องที่คนวัยทำงานจำนวนมากต้องเผชิญ ทำให้หลายคนเริ่มคิดจะซื้อเครื่องนวดไฟฟ้ามาใช้ช่วยบรรเทาความปวดเมื่อยและสร้างความผ่อนคลายไว้ที่บ้านสักเครื่อง แต่ในท้องตลาดจะมีเครื่องนวดไฟฟ้าให้เลือกกี่แบบ แล้วเราควรเลือกซื้อแบบไหนดี รวมถึงจะมีวิธีการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าอย่างไรให้เวิร์ก ไปดูข้อมูลที่ควรรู้กันได้เลย เครื่องนวดไฟฟ้ามี่กี่แบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไร? สิ่งแรกที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้า คือประเภทของเครื่องนวด แม้ว่าจะมีทั้งเครื่องนวดเฉพาะจุด เครื่องนวดเท้า เครื่องนวดขา เครื่องนวดมือถือ หรือเก้าอี้นวด แต่เราสามารถแบ่งประเภทของเครื่องนวดไฟฟ้าได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน ดังนี้ เครื่องนวดแบบมีสาย เครื่องนวดไฟฟ้าแบบมีสาย คือเครื่องนวดที่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อรับกระแสไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นวด เครื่องนวดเท้า หรือเครื่องนวดสลายไขมัน และมักมีขนาดใหญ่ เคลื่อนย้ายลำบาก แต่จุดเด่นของเครื่องนวดประเภทนี้คือมาพร้อมกับโปรแกรมในการนวดที่หลากหลายและครอบคลุม สามารถช่วยแก้อาการปวดเมื่อยได้ทุกจุดในร่างกาย ทำให้การเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าแบบมีสายเหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน และบางรุ่นยังมาพร้อมกับฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ด้วย เช่น ช่องเสียบสาย USB และลำโพงเพื่อเปิดเพลงสร้างบรรยากาศขณะใช้งานอีกด้วย เครื่องนวดแบบไร้สาย เครื่องนวดไฟฟ้าแบบไร้สายหรือเครื่องนวดพกพา มีทั้งรูปแบบชาร์จไฟหรือใช้แบตเตอรี่ ส่วนใหญ่มีน้ำหนักเบา พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก และมักเป็นเครื่องนวดเฉพาะจุด เช่น คอ บ่า ไหล่ หรือขา บางรุ่นสามารถเปลี่ยนหัวได้เพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันในแต่ละบริเวณ ใช้งานได้ง่าย แต่อาจไม่มีโปรแกรมการนวดที่หลากหลายเท่าเครื่องนวดแบบมีสาย วิธีการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าด้วยตัวเอง เมื่อเครื่องนวดไฟฟ้ามีให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภท […]

The post จบทุกปวด ด้วยการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าที่ตอบโจทย์! appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
การเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าด้วยตัวเอง

อาการปวดเมื่อยเป็นเรื่องที่คนวัยทำงานจำนวนมากต้องเผชิญ ทำให้หลายคนเริ่มคิดจะซื้อเครื่องนวดไฟฟ้ามาใช้ช่วยบรรเทาความปวดเมื่อยและสร้างความผ่อนคลายไว้ที่บ้านสักเครื่อง แต่ในท้องตลาดจะมีเครื่องนวดไฟฟ้าให้เลือกกี่แบบ แล้วเราควรเลือกซื้อแบบไหนดี รวมถึงจะมีวิธีการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าอย่างไรให้เวิร์ก ไปดูข้อมูลที่ควรรู้กันได้เลย

เครื่องนวดไฟฟ้ามี่กี่แบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไร?

สิ่งแรกที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้า คือประเภทของเครื่องนวด แม้ว่าจะมีทั้งเครื่องนวดเฉพาะจุด เครื่องนวดเท้า เครื่องนวดขา เครื่องนวดมือถือ หรือเก้าอี้นวด แต่เราสามารถแบ่งประเภทของเครื่องนวดไฟฟ้าได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน ดังนี้

เครื่องนวดแบบมีสาย

เครื่องนวดไฟฟ้าแบบมีสาย คือเครื่องนวดที่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อรับกระแสไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นวด เครื่องนวดเท้า หรือเครื่องนวดสลายไขมัน และมักมีขนาดใหญ่ เคลื่อนย้ายลำบาก แต่จุดเด่นของเครื่องนวดประเภทนี้คือมาพร้อมกับโปรแกรมในการนวดที่หลากหลายและครอบคลุม สามารถช่วยแก้อาการปวดเมื่อยได้ทุกจุดในร่างกาย ทำให้การเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าแบบมีสายเหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน และบางรุ่นยังมาพร้อมกับฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ด้วย เช่น ช่องเสียบสาย USB และลำโพงเพื่อเปิดเพลงสร้างบรรยากาศขณะใช้งานอีกด้วย

เครื่องนวดแบบไร้สาย

เครื่องนวดไฟฟ้าแบบไร้สายหรือเครื่องนวดพกพา มีทั้งรูปแบบชาร์จไฟหรือใช้แบตเตอรี่ ส่วนใหญ่มีน้ำหนักเบา พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก และมักเป็นเครื่องนวดเฉพาะจุด เช่น คอ บ่า ไหล่ หรือขา บางรุ่นสามารถเปลี่ยนหัวได้เพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันในแต่ละบริเวณ ใช้งานได้ง่าย แต่อาจไม่มีโปรแกรมการนวดที่หลากหลายเท่าเครื่องนวดแบบมีสาย

วิธีการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าด้วยตัวเอง

เมื่อเครื่องนวดไฟฟ้ามีให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภท หลากหลายราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักแสน ดังนั้น จะลงทุนจ่ายเงินซื้อทั้งที ก็ควรรู้จักวิธีการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้เครื่องนวดไฟฟ้าที่ราคาคุ้มค่า การใช้งานตอบโจทย์ และสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย หากคุณกำลังมองหาเครื่องนวดไฟฟ้าสักเครื่อง อย่าลืมพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ก่อนตัดสินใจซื้อ

  • เลือกแบรนด์เครื่องนวดไฟฟ้าที่มีความน่าเชื่อถือ มีบริการส่งสินค้าถึงที่ รวมทั้งบริการรับประกันคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับในกรณีที่เครื่องนวดไฟฟ้าชำรุดหรือการใช้งานมีปัญหา
  • เลือกเครื่องนวดไฟฟ้าที่มีระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เช่น ระบบถุงลม และระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
  • รู้ว่าตัวเองมักมีอาการปวดเมื่อยบริเวณไหนบ้าง บางคนอาจปวดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บางคนอาจปวดขาบ่อย อาจต้องการการนวดเฉพาะจุดเป็นพิเศษ จะได้สามารถเลือกซื้อเครื่องนวดไฟฟ้ารุ่นที่มีฟังก์ชันการใช้งานและโปรแกรมการนวดครอบคลุมกับความต้องการ
  • ราคาสมเหตุสมผลกับฟังก์ชันการใช้งาน และอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้

 

ข้อควรรู้ในการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้า

ข้อควรระวังในการใช้เครื่องนวดไฟฟ้า

รู้จักวิธีการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าและเลือกใช้เครื่องนวดที่ปลอดภัยแล้ว แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็มีสิ่งที่ควรระมัดระวังเช่นกัน นั่นก็คือเรื่องของกระแสไฟรั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจร หากเครื่องนวดไฟฟ้าไม่ได้คุณภาพหรืออยู่ในสภาพชำรุด อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ และแม้ว่าเครื่องนวดไฟฟ้าจะมีประโยชน์ในด้านความผ่อนคลายและบรรเทาอาการปวดเมื่อย แต่ก็ไม่ควรใช้กับผู้ที่มีอาการกระดูกสันหลังโค้งงอผิดปกติและผู้หญิงตั้งครรภ์ รวมถึงไม่ควรนวดบริเวณที่มีอาการบวมหรืออักเสบอยู่ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

เลือกนวดที่สปาที่ได้มาตรฐาน ราคาถูกกว่า หมดห่วงเรื่องเครื่องพัง

สำหรับใครที่ชื่นชอบการนวดเพื่อความผ่อนคลายและบรรเทาอาการปวดเมื่อย แต่คิดว่าการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้ายังไม่ใช่คำตอบ เนื่องจากประสิทธิภาพการนวดของเครื่องอาจยังไม่สามารถเทียบเท่ากับการไปนวดที่ร้านได้ ลองเปลี่ยนจากการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้ามาใช้บริการนวดในสปาที่ได้มาตรฐาน ดูแลโดยหมอนวดผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยได้อย่างตรงจุดในบรรยากาศที่เงียบสงบและคิดมาเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง พร้อมให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มรูปแบบทั้งรูป รส กลิ่น และเสียง รวมถึงยังมีบริการนวดที่หลากหลายให้ใช้บริการ เช่น นวดฝ่าเท้า นวดคอบ่าไหล่ นวดแก้ออฟฟิศซินโดรม นวดน้ำมัน นวดอโรมา และการนวดอื่น ๆ ตอบโจทย์ทุกอาการปวดเมื่อยอย่างแท้จริง

อยากผ่อนคลายอย่างเต็มรูปแบบกับการนวดบ่าหลังไหล่ และการนวดแผนไทยประเภทอื่น ๆ อย่างปลอดภัย เลือก Let’s Relax Spa เพราะคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการนวดในหลากหลายสไตล์และมอบประสบการณ์ที่สุดแห่งความผ่อนคลาย เพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ที่มีให้คุณไปใช้บริการกว่า 20 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศไทย หากต้องการจองคิวเพื่อเข้ารับบริการในสาขาที่ต้องการ สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของเรา https://booking.letsrelaxspa.com/book หรือ LINE Official https://lin.ee/QxwQOB1

The post จบทุกปวด ด้วยการเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าที่ตอบโจทย์! appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
5 เคล็ดลับช่วยเลือกโปรแกรมการสครับผิวให้ดีต่อใจ! https://letsrelaxspa.com/th/5-things-to-know-about-scrub/ Mon, 18 Sep 2023 08:46:45 +0000 https://letsrelaxspa.com/?p=23609 ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย ‘การสครับผิว’ ยังคงเป็นหนึ่งในเคล็ดลับผิวกระจ่างใสที่ใครต่อใครต่างแนะนำและบอกต่อ โดยนอกจากจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกเพื่อเผยผิวกระจ่างใสแล้ว การสครับผิวยังถือเป็นการทำสปาที่ช่วยมอบความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจไปพร้อมกันด้วย แล้วการสครับขัดผิวช่วยอะไรได้บ้าง จำเป็นแค่ไหน ควรเลือกการสครับผิวอย่างไรให้เหมาะสมและเห็นผลลัพธ์ที่ตรงใจ มาดู 5 เรื่องสำคัญของการสครับผิวที่นำมาฝากในบทความนี้ เพื่อช่วยให้ทุกคนเลือกโปรแกรม หรือ ผลิตภัณฑ์สครับผิวที่ตอบโจทย์ความต้องการกัน 1. เข้าใจก่อน! การสครับผิวคืออะไร? การสครับผิว คือ การขัดทำความสะอาดผิวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทั้งยังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปจากบริเวณผิวหนัง ทำให้สามารถเผยผิวที่เนียนนุ่มและดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะเป็นเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวที่หลายคนแนะนำ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยสงสัยเช่นกันว่า การสครับขัดผิวช่วยอะไรและมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน คำตอบ คือ การสครับผิวสามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพของกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ของร่างกายได้ โดยทั่วไปแล้ว ผิวหนังของมนุษย์จะทำการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทุก 21 วัน หากวันใดที่ร่างกายมีความผิดปกติ อายุเพิ่มขึ้น หรือมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวอย่างการดื่มน้ำน้อย นอนดึก ไปจนถึงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ผิวของเราก็จะผลัดเซลล์ผิวช้าลง ทำให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวเก่าและใหม่ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวดูหมองคล้ำขึ้นแล้ว เซลล์ผิวที่ทับถมกันนี้ยังสามารถเข้าไปอุดตันรูขุมขนจนเกิดเป็นปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้ 2. รู้จักผลิตภัณฑ์สครับผิว จะเห็นได้ว่า การสครับผิว คือ หนึ่งในเคล็ดลับดูแลสุขภาพผิวที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ดี การจะสครับให้ผิวดูสุขภาพดีและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติจำเป็นต้องเลือกสครับที่เหมาะสมเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว สครับที่นำมาขัดผิวได้จะมีส่วนประกอบด้วยกัน 2 ส่วนหลัก […]

The post 5 เคล็ดลับช่วยเลือกโปรแกรมการสครับผิวให้ดีต่อใจ! appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
การสครับผิวคืออะไร

ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย ‘การสครับผิว’ ยังคงเป็นหนึ่งในเคล็ดลับผิวกระจ่างใสที่ใครต่อใครต่างแนะนำและบอกต่อ โดยนอกจากจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกเพื่อเผยผิวกระจ่างใสแล้ว การสครับผิวยังถือเป็นการทำสปาที่ช่วยมอบความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจไปพร้อมกันด้วย

แล้วการสครับขัดผิวช่วยอะไรได้บ้าง จำเป็นแค่ไหน ควรเลือกการสครับผิวอย่างไรให้เหมาะสมและเห็นผลลัพธ์ที่ตรงใจ มาดู 5 เรื่องสำคัญของการสครับผิวที่นำมาฝากในบทความนี้ เพื่อช่วยให้ทุกคนเลือกโปรแกรม หรือ ผลิตภัณฑ์สครับผิวที่ตอบโจทย์ความต้องการกัน

1. เข้าใจก่อน! การสครับผิวคืออะไร?

การสครับผิว คือ การขัดทำความสะอาดผิวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทั้งยังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปจากบริเวณผิวหนัง ทำให้สามารถเผยผิวที่เนียนนุ่มและดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

แม้จะเป็นเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวที่หลายคนแนะนำ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยสงสัยเช่นกันว่า การสครับขัดผิวช่วยอะไรและมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน คำตอบ คือ การสครับผิวสามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพของกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ของร่างกายได้

โดยทั่วไปแล้ว ผิวหนังของมนุษย์จะทำการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทุก 21 วัน หากวันใดที่ร่างกายมีความผิดปกติ อายุเพิ่มขึ้น หรือมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวอย่างการดื่มน้ำน้อย นอนดึก ไปจนถึงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ผิวของเราก็จะผลัดเซลล์ผิวช้าลง ทำให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวเก่าและใหม่ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวดูหมองคล้ำขึ้นแล้ว เซลล์ผิวที่ทับถมกันนี้ยังสามารถเข้าไปอุดตันรูขุมขนจนเกิดเป็นปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้

2. รู้จักผลิตภัณฑ์สครับผิว

จะเห็นได้ว่า การสครับผิว คือ หนึ่งในเคล็ดลับดูแลสุขภาพผิวที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ดี การจะสครับให้ผิวดูสุขภาพดีและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติจำเป็นต้องเลือกสครับที่เหมาะสมเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว สครับที่นำมาขัดผิวได้จะมีส่วนประกอบด้วยกัน 2 ส่วนหลัก คือ

  • ส่วนที่เป็นเม็ดสครับ

มีตั้งแต่เม็ดสครับพลาสติกสังเคราะห์อย่างโจโจบาบีดส์ที่มีความอ่อนโยนและไม่สร้างความเสียหายให้กับผิว ไปจนถึงเม็ดสครับจากธรรมชาติอย่างเกล็ดอัลมอนด์ กากกาแฟ เมล็ดข้าวโพด เมล็ดสตรอว์เบอร์รี เกลือ น้ำตาล ตลอดจนสมุนไพรบดละเอียด เช่น ขมิ้นบด ทานาคา และว่านนางคำ

  • ส่วนผสมสำหรับการดูแลผิว

ส่วนผสมในส่วนนี้จะมีความแตกต่างกันไปตามสูตรของผู้ผลิตแต่ละแห่ง เช่น มีการนำน้ำมันที่มีสรรพคุณช่วยดูแลผิวอย่างน้ำมันอัลมอนด์ หรือ น้ำมันมะพร้าวมาผสม ไปจนถึงการใส่น้ำมันหอมระเหยที่ช่วยปรับสมดุลร่างกาย รวมถึงมีส่วนผสมอย่างน้ำผึ้ง น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว ตลอดจนการนำผงถ่านชาโคลมาผสมเพื่อช่วยในเรื่องของการดีท็อกซ์ผิว เป็นต้น

3. เข้าใจความแตกต่างของสครับสำหรับผิวแต่ละบริเวณ

ผิวแต่ละประเภทมีความต้องการที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องเลือก ‘เนื้อสัมผัส’ ของสครับที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งหากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกสครับแบบไหนให้ตอบโจทย์ ลองมาพิจารณาการเลือกผลิตภัณฑ์สครับตามเช็กลิสต์ ดังนี้

  • คนผิวแห้ง ควรเลือกใช้สครับเนื้อน้ำมันและเนื้อครีม เนื่องจากช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้
  • คนผิวมัน ควรเลือกใช้สครับเนื้อเจล เนื้อโคลน และสครับเนื้อผงแห้ง เพราะลดความเสี่ยงในการอุดตัน ทั้งยังช่วยดูดซับความมันจากผิวได้เป็นอย่างดี
  • คนผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้สครับเนื้อเจล เนื้อครีม และเนื้อผงแห้ง ทั้งนี้ควรตรวจสอบให้ชัวร์ก่อนว่าแพ้ส่วนผสมใดเป็นพิเศษหรือไม่ เนื่องจากสครับแต่ละแบบมีอัตราส่วนและส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป

นอกจากจะพิจารณาตามสภาพผิวแล้ว การเลือกผลิตภัณฑ์สครับยังต้องคำนึงถึงบริเวณที่จะนำไปใช้งานด้วย

  • การสครับผิวหน้า ควรเลือกใช้สครับเนื้อละเอียด มีเม็ดสครับที่เล็กและอ่อนโยนต่อผิว เนื่องจากผิวหนังที่บริเวณใบหน้าและคอมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคืองสูง
  • การสครับผิวกาย ควรเลือกใช้สครับที่มีเม็ดสครับขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการขจัดเซลล์ผิวและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

การสครับขัดผิวช่วยอะไร

4. ควรสครับผิวบ่อยแค่ไหน?

แม้จะเป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่เพื่อเผยผิวกระจ่างใส แต่การสครับผิวที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ชั้นผิวบางและเสี่ยงต่อการระคายเคืองได้ง่าย
นอกจากนี้ หากยิ่งสครับผิวบ่อย สครับผิวด้วยความรุนแรง หรือ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สครับที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณและสภาพผิว ชั้นผิวของเราก็จะยิ่งอ่อนแอลง แถมยังคล้ำเสียได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพผิวที่มีประสิทธิภาพ ขอแนะนำให้สครับผิวเพียง 1 – 2 ครั้ง/สัปดาห์ หรือ สครับผิวเพียง 1 ครั้ง/เดือน ทั้งนี้เพื่อไม่รบกวนกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ

5. การเตรียมตัวก่อน – หลัง การสครับผิว

เพื่อช่วยให้เห็นผลลัพธ์ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเป็นการช่วยดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ขอแนะนำให้เตรียมตัวก่อน – หลังสครับผิว ดังนี้
ก่อนสครับผิว:

  1. ตรวจสอบอาการทางผิวหนังให้เรียบร้อย เนื่องจากการสครับผิวอาจเป็นตัวกระตุ้นให้โรคผิวหนังบางประเภททวีความรุนแรงขึ้น โดยผู้ที่มีปัญหาผิวอักเสบ สิวอักเสบ แผลติดเชื้อ โรคสะเก็ดเงิน แผลเปิด ผิวไหม้จากแดด ตลอดจนผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังอย่างโรคโรซาเซีย (Rosacea) ห้ามสครับผิวจนกว่าจะทำการรักษาให้หายขาด
  2. หากไม่มีอาการทางผิวหนัง ก่อนลงมือสครับผิว ขอแนะนำให้อาบน้ำอุ่นเพื่อเป็นการเปิดรูขุมขนออกก่อน
  3. ลงมือสครับผิวด้วยความอ่อนโยน ไม่ควรขัดถูแรงเกินไป เนื่องจากอาจทำให้ผิวแดงและเป็นแผลตามมาได้

หลังสครับผิว:

  1. ล้างทำความสะอาดตัวด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง หลังจากนั้นเช็ดตัวให้แห้งสนิท
  2. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื่องจากผิวมักจะแห้งกร้านขึ้นหลังจากสครับผิวเสร็จ
  3. อย่าลืมทาครีมกันแดดที่บริเวณหน้าและส่วนอื่น ๆ ที่ทำการสครับ เพราะการสครับผิวจะเป็นการขัดทำความสะอาดเซลล์ผิวที่ตายออก ส่งผลให้มีความบอบบางและไวต่อแสงสูง หากไม่ทาครีมกันแดดอาจทำให้ผิวโดนทำร้ายจากรังสี UV ได้

 

การสครับผิวเป็นหนึ่งในเคล็ดลับการเสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรงได้ แน่นอนว่าเมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ ใคร ๆ ก็สามารถเลือกโปรแกรมสครับผิวที่ตอบโจทย์และดีต่อใจได้อย่างแน่นอน

Let’s Relax Spa ร้านสปาผิวใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมชวนคุณมาผ่อนคลายทั้งกายใจไปกับโปรแกรมปรนนิบัติสครับผิวจากผู้เชี่ยวชาญ รองรับความต้องการแบบครบครันด้วยผลิตภัณฑ์สครับธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว ตอบโจทย์ผลลัพธ์ผิวกระจ่างใสสุขภาพดี เนียนนุ่มจนใคร ๆ ก็หลงรัก

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกโปรแกรมสครับผิวที่เหมาะสมได้แล้วที่ Let’s Relax ทุกสาขาทั่วไทย หรือ จองใช้บริการสปาผิวที่ต้องการได้ด้วยตัวเองที่

 

 

 

The post 5 เคล็ดลับช่วยเลือกโปรแกรมการสครับผิวให้ดีต่อใจ! appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
บอกลาอาการ Office Syndrome ที่กวนใจ ด้วยการนวดบ่าหลังไหล่ https://letsrelaxspa.com/th/massage-for-office-syndrome/ https://letsrelaxspa.com/th/massage-for-office-syndrome/#respond Mon, 07 Aug 2023 03:50:18 +0000 https://letsrelaxspa.com/?p=23274 เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน หนึ่งในปัญหาที่ยากจะหลีกเลี่ยง ก็คือปัญหา “Office Syndrome” ที่มาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยตั้งแต่หลังไปจนถึงไหล่ ซึ่งหากปล่อยไว้ สิ่งที่ตามมาอาจไม่ใช่แค่อาการปวดที่กวนใจ แต่ยังอาจกลายเป็นอาการเรื้อรัง ที่ทำให้เราใช้ชีวิตได้ลำบากกว่าเดิม ชวนมารู้จักกับสาเหตุของปัญหา มาดูกันว่าออฟฟิศซินโดรมเกิดจากอะไร พร้อมแนวทางการแก้ไข ที่จะช่วยบอกลาอาการออฟฟิศซินโดรมให้หมดไปจากวัยทำงาน รู้ทัน 3 สัญญาณเตือน: ออฟฟิศซินโดรม เกิดจากอะไร? ปวดคอ บ่า หลัง ไหล่ เรื้อรัง จากการนั่งเกร็งคอในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ เพื่อมองหน้าจอ โดยในอันดับแรกจะเริ่มจากการปวดเกร็งที่คอ แล้วจึงลามลงมาถึงบ่า หลัง และช่วงไหล่ เมื่อขยับตัวก็จะยิ่งรู้สึกปวด จนอาจส่งผลกระทบกับการนอนหลับ ปวดที่แขนและมือ จากการวางมือในท่าเดิมเพื่อคลิกเมาส์หรือพิมพ์งาน ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่หาทางแก้ไข อาจกลายเป็นอาการนิ้วล็อก และกลายเป็นพังผืดที่มือ จนต้องเข้ารับการผ่าตัด ปวดหัวเรื้อรัง อาการปวดหัวอาจเกิดขึ้นจากการเพ่งสายตาไปที่หน้าจอเป็นเวลานาน ๆ บางคนอาจปวดรุนแรงจนกลายเป็นการปวดไมเกรนที่กระทบต่อการใช้ชีวิต เชื่อว่าชาวออฟฟิศหลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ อาจร้องอ๋อขึ้นมาทันที ว่าอาการเจ็บป่วยที่เราเผชิญอยู่ในทุกวัน แท้จริงแล้วคือสัญญาณเตือนของโรคออฟฟิศซินโดรมนั่นเอง ซึ่งอาการเหล่านี้ หากปล่อยไว้ก็จะยิ่งรุนแรงและเป็นหนักขึ้น ในบางรายอาจถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดและทำกายภาพอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว ดังนั้น หากรู้ตัวแล้วว่าเรามีความเสี่ยง หรือกำลังเจ็บป่วยด้วยโรคออฟฟิศซินโดรม ควรรีบหาวิธีแก้ไขเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ก่อนที่จะสายเกินไป […]

The post บอกลาอาการ Office Syndrome ที่กวนใจ ด้วยการนวดบ่าหลังไหล่ appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
วิธีแก้ออฟฟิศซินโดรม ด้วยการนวด

เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน หนึ่งในปัญหาที่ยากจะหลีกเลี่ยง ก็คือปัญหา “Office Syndrome” ที่มาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยตั้งแต่หลังไปจนถึงไหล่ ซึ่งหากปล่อยไว้ สิ่งที่ตามมาอาจไม่ใช่แค่อาการปวดที่กวนใจ แต่ยังอาจกลายเป็นอาการเรื้อรัง ที่ทำให้เราใช้ชีวิตได้ลำบากกว่าเดิม

ชวนมารู้จักกับสาเหตุของปัญหา มาดูกันว่าออฟฟิศซินโดรมเกิดจากอะไร พร้อมแนวทางการแก้ไข ที่จะช่วยบอกลาอาการออฟฟิศซินโดรมให้หมดไปจากวัยทำงาน

รู้ทัน 3 สัญญาณเตือน: ออฟฟิศซินโดรม เกิดจากอะไร?

  • ปวดคอ บ่า หลัง ไหล่ เรื้อรัง จากการนั่งเกร็งคอในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ เพื่อมองหน้าจอ โดยในอันดับแรกจะเริ่มจากการปวดเกร็งที่คอ แล้วจึงลามลงมาถึงบ่า หลัง และช่วงไหล่ เมื่อขยับตัวก็จะยิ่งรู้สึกปวด จนอาจส่งผลกระทบกับการนอนหลับ
  • ปวดที่แขนและมือ จากการวางมือในท่าเดิมเพื่อคลิกเมาส์หรือพิมพ์งาน ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่หาทางแก้ไข อาจกลายเป็นอาการนิ้วล็อก และกลายเป็นพังผืดที่มือ จนต้องเข้ารับการผ่าตัด
  • ปวดหัวเรื้อรัง อาการปวดหัวอาจเกิดขึ้นจากการเพ่งสายตาไปที่หน้าจอเป็นเวลานาน ๆ บางคนอาจปวดรุนแรงจนกลายเป็นการปวดไมเกรนที่กระทบต่อการใช้ชีวิต

เชื่อว่าชาวออฟฟิศหลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ อาจร้องอ๋อขึ้นมาทันที ว่าอาการเจ็บป่วยที่เราเผชิญอยู่ในทุกวัน แท้จริงแล้วคือสัญญาณเตือนของโรคออฟฟิศซินโดรมนั่นเอง ซึ่งอาการเหล่านี้ หากปล่อยไว้ก็จะยิ่งรุนแรงและเป็นหนักขึ้น ในบางรายอาจถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดและทำกายภาพอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว ดังนั้น หากรู้ตัวแล้วว่าเรามีความเสี่ยง หรือกำลังเจ็บป่วยด้วยโรคออฟฟิศซินโดรม ควรรีบหาวิธีแก้ไขเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ก่อนที่จะสายเกินไป

5 วิธีแก้ Office Syndrome

ใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ

ในระหว่างที่นั่งทำงาน เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดอาการปวดขึ้นมา สิ่งหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาได้ก็คือการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ โดยมีทั้งรูปแบบครีม เจล สเปรย์ และยาหม่อง เมื่อทาแล้วจะรู้สึกเย็น ช่วยลดการเจ็บปวด และช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ชั่วขณะ

เปลี่ยนอิริยาบถขณะทำงาน

อีกหนึ่งวิธีแก้ออฟฟิศซินโดรมที่ได้ผลดีในระยะยาว ก็คือการเปลี่ยนอิริยาบถขณะทำงาน โดยเฉพาะใครที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมตั้งแต่เช้าจรดเย็น ให้ลองขยับเปลี่ยนท่าทางบ่อย ๆ จัดความสูงของโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะสม รวมถึงหาเวลาเดินทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง จะช่วยลดโอกาสเจ็บปวดได้

แปะแผ่นเจลบรรเทาปวด

นอกจากยาคลายกล้ามเนื้อแล้ว อีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้ สำหรับวัยทำงานที่ทรมานจากอาการออฟฟิศซินโดรม ก็คือการแปะแผ่นเจลบรรเทาปวด ข้อดีก็คือใช้งานง่าย แค่แปะครั้งเดียวก็อยู่ได้หลายชั่วโมง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเลอะเสื้อผ้า แถมยังมาพร้อมกับกลิ่นสมุนไพรเพื่อเพิ่มความผ่อนคลายอีกด้วย

นวดบ่าหลังไหล่ โดยผู้เชี่ยวชาญ ที่สปา กรุงเทพ

เข้ารับบริการนวดบ่าหลังไหล่

ปิดท้ายด้วยวิธีแก้ออฟฟิศซินโดรมที่จะช่วยคลายความปวดเมื่อยได้เป็นปลิดทิ้ง และถ้าหากทำต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น นั่นก็คือการนวดบ่าหลังไหล่ ซึ่งเป็นโปรแกรมการนวดที่ผสมผสานหลากหลายเทคนิคเข้าด้วยกัน ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งและตึงจากการนั่งทำงานในท่าเดิม ๆ ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดพังผืด กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และกระตุ้นระบบน้ำเหลือง นอกจากอาการปวดจะหายไปแล้ว ยังช่วยบรรเทาความเครียด และช่วยให้นอนหลับได้สนิทมากขึ้น

สำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งนวดบ่าหลังไหล่ดี ๆ เพื่อแก้ Office Syndrome สามารถเข้ารับบริการได้เลยที่ Let’s Relax Spa สปาพรีเมียมที่ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ เปิดให้บริการมากกว่า 50 สาขาทั่วประเทศไทย ให้คุณบอกลาอาการปวดเมื่อยที่กวนใจไปได้เลย จองแพ็กเกจนวดผ่านทางออนไลน์ได้ทั้งช่องทางเว็บไซต์ ที่ลิงก์ https://booking.letsrelaxspa.com/book และ LINE Official https://lin.ee/QxwQOB1

The post บอกลาอาการ Office Syndrome ที่กวนใจ ด้วยการนวดบ่าหลังไหล่ appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
https://letsrelaxspa.com/th/massage-for-office-syndrome/feed/ 0
รวมมารยาทและข้อห้ามในการแช่ออนเซ็นฉบับครบที่เดียว https://letsrelaxspa.com/th/onsen-manner-should-know/ https://letsrelaxspa.com/th/onsen-manner-should-know/#respond Mon, 07 Aug 2023 03:26:40 +0000 https://letsrelaxspa.com/?p=23259 เนื่องจากเป็นวัฒนธรรมที่ส่งต่อมาจากประเทศญี่ปุ่น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนไทยส่วนใหญ่จะไม่ทราบถึงมารยาทและข้อห้ามในการแช่ออนเซ็น ส่งผลให้มีหลายคนที่อยากลองเปิดประสบการณ์แช่ออนเซ็นดูสักครั้ง แต่ก็ขาดความมั่นใจ กล้า ๆ กลัว ๆ ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร บทความนี้จึงจะมาเป็นช่วย รวบรวมมารยาทและข้อห้ามในการแช่ออนเซ็นที่ควรทราบมาให้อ่านกันแบบเข้าใจง่าย จบครบในที่เดียว อ่านจบปุ๊ปสามารถเปิดประตูเข้าสู่โลกแห่งการแช่ออนเซ็นได้อย่างมั่นใจ ติดตามได้เลย ขั้นตอนการแช่ออนเซ็น เพื่อให้เข้าใจวัฒนธรรมแช่ออนเซ็นอย่างกระจ่างแจ้ง เราจึงจะมาไล่เรียงขั้นตอนการแช่ออนเซ็นแบบละเอียด ตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปในร้าน จนถึงเมื่อแช่ออนเซ็นเสร็จสิ้น โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ ขั้นตอนที่ 1: หลังจากพูดคุยกับพนักงานเสร็จ และมายังบริเวณบ่อออนเซ็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด เก็บสัมภาระทุกอย่างไว้ในล็อกเกอร์ ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังรู้สึกเขินอายที่จะเปลือยกายต่อหน้าผู้อื่น แต่ถ้าลองเปิดใจ เชื่อว่าใช้เวลาไม่นานก็จะรู้สึกชินไปเอง ขั้นตอนที่ 2: ก่อนที่จะก้าวลงบ่อออนเซ็น เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดก่อน เป็นมารยาทในการแช่บ่อออนเซ็นที่สำคัญอย่างยิ่ง ช่วยป้องกันการที่เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามร่างกายไม่ให้ปนเปื้อนกับน้ำในบ่อ ขั้นตอนที่ 3: หลังจากร่างกายสะอาดแล้ว อย่าเพิ่งใจร้อนกระโจนลงบ่อทันที เพราะร่างกายอาจปรับตัวกับอุณหภูมิของน้ำร้อนในบ่อไม่ทัน ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือใช้มือวักน้ำในบ่อมาชะโลมร่างกายให้ทั่ว ขั้นตอนที่ 4: เมื่อใช้น้ำในบ่อชะโลมร่างจนทั่วแล้ว สิ่งต่อไปที่ควรทำคือการลงไปแช่ในบ่อ โดยเริ่มจากการจุ่มขาทั้งสองข้างลงไปก่อน และเมื่อรู้สึกว่าร่างกายปรับสมดุลได้แล้ว ให้ตามด้วยการลงไปแช่ครึ่งตัว ขั้นตอนที่ 5: ถึงแม้การแช่ออนเซ็นจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ไม่ควรแช่นานเกินไป เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน ดังนั้นระยะเวลาในการแช่ […]

The post รวมมารยาทและข้อห้ามในการแช่ออนเซ็นฉบับครบที่เดียว appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
เนื่องจากเป็นวัฒนธรรมที่ส่งต่อมาจากประเทศญี่ปุ่น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนไทยส่วนใหญ่จะไม่ทราบถึงมารยาทและข้อห้ามในการแช่ออนเซ็น ส่งผลให้มีหลายคนที่อยากลองเปิดประสบการณ์แช่ออนเซ็นดูสักครั้ง แต่ก็ขาดความมั่นใจ กล้า ๆ กลัว ๆ ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร บทความนี้จึงจะมาเป็นช่วย รวบรวมมารยาทและข้อห้ามในการแช่ออนเซ็นที่ควรทราบมาให้อ่านกันแบบเข้าใจง่าย จบครบในที่เดียว อ่านจบปุ๊ปสามารถเปิดประตูเข้าสู่โลกแห่งการแช่ออนเซ็นได้อย่างมั่นใจ ติดตามได้เลย

มารยาทในการแช่บ่อออนเซ็น ที่ควรรู้

ขั้นตอนการแช่ออนเซ็น

เพื่อให้เข้าใจวัฒนธรรมแช่ออนเซ็นอย่างกระจ่างแจ้ง เราจึงจะมาไล่เรียงขั้นตอนการแช่ออนเซ็นแบบละเอียด ตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปในร้าน จนถึงเมื่อแช่ออนเซ็นเสร็จสิ้น โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  • ขั้นตอนที่ 1: หลังจากพูดคุยกับพนักงานเสร็จ และมายังบริเวณบ่อออนเซ็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด เก็บสัมภาระทุกอย่างไว้ในล็อกเกอร์ ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังรู้สึกเขินอายที่จะเปลือยกายต่อหน้าผู้อื่น แต่ถ้าลองเปิดใจ เชื่อว่าใช้เวลาไม่นานก็จะรู้สึกชินไปเอง
  • ขั้นตอนที่ 2: ก่อนที่จะก้าวลงบ่อออนเซ็น เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดก่อน เป็นมารยาทในการแช่บ่อออนเซ็นที่สำคัญอย่างยิ่ง ช่วยป้องกันการที่เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามร่างกายไม่ให้ปนเปื้อนกับน้ำในบ่อ
  • ขั้นตอนที่ 3: หลังจากร่างกายสะอาดแล้ว อย่าเพิ่งใจร้อนกระโจนลงบ่อทันที เพราะร่างกายอาจปรับตัวกับอุณหภูมิของน้ำร้อนในบ่อไม่ทัน ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือใช้มือวักน้ำในบ่อมาชะโลมร่างกายให้ทั่ว
  • ขั้นตอนที่ 4: เมื่อใช้น้ำในบ่อชะโลมร่างจนทั่วแล้ว สิ่งต่อไปที่ควรทำคือการลงไปแช่ในบ่อ โดยเริ่มจากการจุ่มขาทั้งสองข้างลงไปก่อน และเมื่อรู้สึกว่าร่างกายปรับสมดุลได้แล้ว ให้ตามด้วยการลงไปแช่ครึ่งตัว
  • ขั้นตอนที่ 5: ถึงแม้การแช่ออนเซ็นจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ไม่ควรแช่นานเกินไป เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน ดังนั้นระยะเวลาในการแช่ 1 ครั้งจึงไม่ควรเกิน 20 นาที
  • ขั้นตอนที่ 6: เมื่อแช่ออนเซ็นจนครบเวลาแล้ว ก็ถึงเวลาขึ้นจากบ่อ แต่หลังจากที่ขึ้นมาแล้วไม่ควรอาบน้ำล้างตัวโดยทันที เพราะร่างกายอาจปรับตัวกับอุณหภูมิไม่ทัน รวมถึงน้ำจะชะล้างแร่ธาตุที่เกาะติดผิวหนังให้หายไปก่อนที่จะซึมเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น หากต้องการล้างตัว ควรเว้นระยะเวลาไว้ประมาณ 30 นาที
  • ขั้นตอนที่ 7: การแช่ออนเซ็นอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ดังนั้น หลังจากที่แช่เสร็จจึงควรหาน้ำดื่มเย็น ๆ มาจิบเพื่อเติมความสดชื่น

 

ข้อห้ามในการแช่ออนเซ็น มีอะไรบ้าง

ข้อห้ามในการแช่ออนเซ็น

เมื่อได้ทราบถึงขั้นตอนในการแช่ออนเซ็นกันไปแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน และควรรู้ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้การโดนผู้อื่นมองค้อนก็คือข้อห้ามในการแช่ออนเซ็น โดยสามารถแบ่งเป็นข้อ ๆ ได้ดังต่อไปนี้

  • ถึงแม้จะรู้สึกว่าน้ำในบ่อออนเซ็นร้อนเกินไป แต่ก็ห้ามเติมน้ำเย็นลงไปในบ่อโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจทำให้เกิดการปนเปื้อน และยังจะทำให้แร่ธาตุเจือจางลง
  • โดยปกติแล้วในการแช่ออนเซ็น ทุกคนจะได้รับผ้าขนหนูมาหนึ่งผืน โดยมารยาทในการแช่บ่อออนเซ็นที่ควรทำคือ นำผ้าขนหนูมาวางไว้บนศีรษะขณะแช่ และอย่านำผ้าขนหนูจุ่มลงไปในบ่อโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้น้ำที่ควรสะอาดบริสุทธิ์ปนเปื้อนสิ่งสกปรกได้
  • สำหรับคนที่ผมยาวควรมัดหรือเกล้าผม เพื่อไม่ให้ผมซึ่งอาจมีสิ่งสกปรกเกาะติดอยู่จุ่มลงไปในบ่อ
  • ไม่ว่าคุณจะรู้สึกเขินอายมากเพียงใด แต่ก็ห้ามใส่เสื้อผ้าลงบ่อน้ำร้อนออนเซ็นเด็ดขาด เรียกได้ว่านี่คือข้อห้ามในการแช่ออนเซ็นที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้

แช่ออนเซ็นใจกลางกรุงเทพฯ ที่ Let’s Relax Onsen & Spa

ถึงตรงนี้ ทุกคนก็พร้อมแล้วที่จะเปิดประตูเข้าสู่โลกแห่งการแช่ออนเซ็นด้วยความมั่นใจ
โดยสามารถมาสัมผัสประสบการณ์แห่งความผ่อนคลาย ปลดปล่อยให้ร่างกายได้รับความสงบที่แท้จริงกับการแช่ออนเซ็นได้ที่ Let’s Relax Onsen & Spa ออนเซ็นกรุงเทพฯ ในย่านทองหล่อ บนถนนสุขุมวิท เรียกได้ว่าเดินทางสะดวกสุด ๆ เป็นออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ทั้งอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงผงน้ำแร่คุณภาพเยี่ยมในออนเซ็นของเรา นำเข้าจากบ่อน้ำพุร้อนในเมืองเกโระ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมมอบจิตวิญญาณแห่งความสงบ ที่มาพร้อมกับการนวดสปาด้วยสมุนไพรแบบต้นตำรับ นอกจากนี้ ยังมีบริการห้องซาวน์น่า อบไอน้ำ ห้องปรับอุณภูมิร้อน และห้องปรับอุณภูมิเย็นอีกด้วย โดยสามารถจองคิวสำหรับการทำสปาและนวดได้ที่ลิงก์ https://booking.letsrelaxspa.com/book และ LINE Official https://lin.ee/QxwQOB1 หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร. 02 – 042 8045

The post รวมมารยาทและข้อห้ามในการแช่ออนเซ็นฉบับครบที่เดียว appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
https://letsrelaxspa.com/th/onsen-manner-should-know/feed/ 0
การนวดเท้า: ประสบการณ์ความผ่อนคลายที่เหนือระดับ https://letsrelaxspa.com/th/benefits-of-foot-massage/ https://letsrelaxspa.com/th/benefits-of-foot-massage/#respond Mon, 24 Jul 2023 13:33:38 +0000 https://letsrelaxspa.com/?p=23180   หากคุณคือมนุษย์ออฟฟิศที่กำลังเผชิญกับความเครียด และกำลังมองหาวิธีที่จะช่วยฟื้นฟูทั้งอารมณ์และจิตใจ รู้ไหมว่าการนวดเท้านั้นช่วยได้! บทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับประโยชน์ของการนวดเท้า มาดูกันว่า ทำไมการนวดที่เท้า จึงสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ การนวดเท้า คือการนวดแบบใด? “การนวดเท้า” คือ การนวดลงไปบนส่วนต่าง ๆ ของเท้า ตั้งแต่ฝ่าเท้า หน้าเท้า และหลังเท้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อมอบความผ่อนคลาย และคลายความปวดเมื่อย ซึ่งนอกจากจะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นแล้ว การนวดที่บริเวณเท้านั้นยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลือง เป็นการดูแลสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้นอีกด้วย การนวดฝ่าเท้า ช่วยอะไรบ้าง? ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการใช้เท้าตลอดทั้งวัน ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อที่เท้า ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้ดี ลดความเสี่ยงการอักเสบ ช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้นอนหลับง่าย หลับได้สนิทมากขึ้น ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลือง   การนวดฝ่าเท้า เหมาะกับใครบ้าง ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องยืนหรือเดินตลอดทั้งวัน จนเกิดอาการปวดเมื่อยเท้า ผู้ที่เผชิญกับความเครียดจากการทำงาน ผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย ไม่ค่อยได้ลุกเดินด้วยตัวเอง   ข้อควรระวังในการนวดเท้า ไม่ควรนวดหลังรับประทานอาหารอิ่ม ควรรอให้ร่างกายย่อยก่อน อย่างน้อย 30 นาที ไม่ควรนวดเมื่อเป็นไข้ หรือเมื่อรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลียกว่าปกติ ไม่ควรนวดขณะมีประจำเดือน ผู้หญิงตั้งครรภ์ ไม่ควรรับการนวดฝ่าเท้าในทุกกรณี หากรู้สึกปวดเมื่อย สามารถบีบนวดเบา […]

The post การนวดเท้า: ประสบการณ์ความผ่อนคลายที่เหนือระดับ appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
ประโยชน์ของการนวดเท้า ที่มีต่อร่างกายและจิตใจ

 

หากคุณคือมนุษย์ออฟฟิศที่กำลังเผชิญกับความเครียด และกำลังมองหาวิธีที่จะช่วยฟื้นฟูทั้งอารมณ์และจิตใจ รู้ไหมว่าการนวดเท้านั้นช่วยได้! บทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับประโยชน์ของการนวดเท้า มาดูกันว่า ทำไมการนวดที่เท้า จึงสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้

การนวดเท้า คือการนวดแบบใด?

“การนวดเท้า” คือ การนวดลงไปบนส่วนต่าง ๆ ของเท้า ตั้งแต่ฝ่าเท้า หน้าเท้า และหลังเท้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อมอบความผ่อนคลาย และคลายความปวดเมื่อย ซึ่งนอกจากจะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นแล้ว การนวดที่บริเวณเท้านั้นยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลือง เป็นการดูแลสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้นอีกด้วย

การนวดฝ่าเท้า ช่วยอะไรบ้าง?

  • ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการใช้เท้าตลอดทั้งวัน
  • ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อที่เท้า ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้ดี ลดความเสี่ยงการอักเสบ
  • ช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้นอนหลับง่าย หลับได้สนิทมากขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลือง

 

การนวดฝ่าเท้า เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องยืนหรือเดินตลอดทั้งวัน จนเกิดอาการปวดเมื่อยเท้า
  • ผู้ที่เผชิญกับความเครียดจากการทำงาน
  • ผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย ไม่ค่อยได้ลุกเดินด้วยตัวเอง

 

ข้อควรระวังในการนวดเท้า

  • ไม่ควรนวดหลังรับประทานอาหารอิ่ม ควรรอให้ร่างกายย่อยก่อน อย่างน้อย 30 นาที
  • ไม่ควรนวดเมื่อเป็นไข้ หรือเมื่อรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลียกว่าปกติ
  • ไม่ควรนวดขณะมีประจำเดือน
  • ผู้หญิงตั้งครรภ์ ไม่ควรรับการนวดฝ่าเท้าในทุกกรณี หากรู้สึกปวดเมื่อย สามารถบีบนวดเบา ๆ หรือทายาที่ช่วยบรรเทา แต่ไม่ควรนวดกดจุดที่ฝ่าเท้า

 

นวดเท้า คลายเครียด ที่ สปา กรุงเทพ

การนวดเท้า ช่วยบำบัดความเครียดได้อย่างไร?

จากประโยชน์ของการนวดเท้าที่เราได้แนะนำไปข้างต้น อาจทำให้หลายคนสงสัยว่า ทำไมการนวดที่ฝ่าเท้าเพียงอวัยวะเดียว จึงส่งผลดีต่อร่างกายได้หลากหลายประการ แถมยังดีต่อคนทุกวัย ตั้งแต่วัยทำงานไปจนถึงวัยสูงอายุ เรามาดูเหตุผลกันเลย

เมื่อเริ่มทำการนวดฝ่าเท้า ประโยชน์แรกที่เราจะได้รับก็คือการคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้น ทั้งความเจ็บปวดและความเมื่อยจากการเดินเป็นเวลานานจะค่อย ๆ บรรเทาลง จากนั้นร่างกายจะปลดปล่อยฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนนั้นเองที่จะช่วยให้เรานอนหลับได้ดี และเมื่อเราพักผ่อนเพียงพอ ก็จะทำให้เราสามารถจัดการกับความเครียดได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

นอกจากนี้ การนวดฝ่าเท้ายังมีประโยชน์ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้หัวใจทำงานได้ดี ช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ และสามารถโฟกัสกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น ดังนั้นแล้ว หากใครที่รู้สึกว่าช่วงนี้มีความเครียดสะสมจนทำให้นอนไม่ค่อยหลับ และรู้สึกเมื่อยล้าที่เท้าบ่อย ๆ การเข้ารับบริการนวดฝ่าเท้ากับผู้เชี่ยวชาญที่สปาดี ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยคลายเครียดและช่วยให้สุขภาพโดยรวมของเราดีขึ้นได้

บอกลาความเครียดและความเมื่อยล้าที่สะสม ด้วยบริการนวดเท้าจากผู้เชี่ยวชาญ ที่ Let’s Relax Spa ร้านสปาที่เปิดให้บริการมากกว่า 50 สาขาทั่วประเทศไทย พร้อมมอบความสบายที่เหนือระดับให้กับคุณ จองแพ็กเกจนวดผ่านทางออนไลน์ได้เลย ทั้งช่องทางเว็บไซต์ ที่ลิงก์ https://booking.letsrelaxspa.com/book หรือ LINE Official https://lin.ee/QxwQOB1

The post การนวดเท้า: ประสบการณ์ความผ่อนคลายที่เหนือระดับ appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
https://letsrelaxspa.com/th/benefits-of-foot-massage/feed/ 0
ประโยชน์ของการนวดไทยในการบรรเทาอาการ https://letsrelaxspa.com/th/relieving-symptoms-by-massage/ https://letsrelaxspa.com/th/relieving-symptoms-by-massage/#respond Mon, 24 Jul 2023 13:22:30 +0000 https://letsrelaxspa.com/?p=23168 การนวดเป็นศาสตร์แห่งการฟื้นฟูบำบัดร่างกายที่ถูกส่งต่อมานานหลายศตวรรษ และเมื่อนำมาใช้ประกอบกับองค์ความรู้ด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าขึ้นมากในปัจจุบัน การนวดจึงเป็นมากกว่าการผ่อนคลายร่างกาย แต่ยังถูกประยุกต์นำมาเป็นทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ อีกด้วย และสำหรับใครที่สงสัยว่า อาการหรือโรคใดที่บรรเทาได้โดยการนวดบ้าง? บทความนี้มีคำตอบ ติดตามได้เลย   อาการหรือโรคใดที่บรรเทาได้โดยการนวดบ้าง? คำตอบแรกของคำถามนี้คือ ‘ความเครียดและความวิตกกังวล’ ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในอาการที่คนยุคนี้ประสบมากที่สุด สาเหตุจากชีวิตประจำวันที่ต้องแบกรับภาระและความรับผิดชอบมากมาย อย่างไรก็ตาม การนวดสามารถบรรเทาอาการนี้ได้ โดยเมื่อร่างกายถูกสัมผัสอย่างอ่อนโยนและถูกต้องตามวิธีการ สารเอ็นดอร์ฟินและเซโรโทนินซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับความสุขจะถูกกระตุ้นให้หลั่งออกมาแทนที่ความเครียด ซึ่งเมื่อความเครียดเบาบางลง ความวิตกกังวลก็ย่อมน้อยลงเช่นกัน สวนทางอารมณ์และสุขภาพจิตที่ดีขึ้น คลายความตึงและปวดของกล้ามเนื้อ เนื่องจากลักษณะการทำงานที่ส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวันของผู้คนในยุคปัจจุบัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดการปวดหรือตึงของกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการนวด เนื่องจากประโยชน์ของการนวดไทยอีกหนึ่งข้อคือการคลายความตึงเครียดที่สะสมอยู่ในมัดกล้ามเนื้อ ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ซึ่งช่วยลดอาการปวดหรือตึงกล้ามเนื้อได้ นอกจากนี้ การนวดยังมีส่วนในการลดการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมอง ทำให้ความเจ็บปวดบรรเทาเบาบางลง ด้วยเหตุนี้ นักกีฬาอาชีพ รวมถึงบุคคลที่มีอาการเรื้อรัง เช่น โรคไฟโบรไมอัลเจียหรือโรคข้ออักเสบนิยมใช้การนวดเป็นหนึ่งในทางเลือกการรักษา ปวดหัวและไมเกรน นอกจากจะเป็นความเจ็บปวดที่ไม่มีใครอยากประสบแล้ว อาการปวดหัวและไมเกรนยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว รวมถึงคุณภาพชีวิตโดยรวมอีกด้วย ดังนั้น ถ้าสามารถบรรเทาลงได้ก็ย่อมเป็นเรื่องดี ซึ่งประโยชน์ของการนวดไทยก็ครอบคลุมถึงอาการนี้ด้วย โดยจะเป็นการนวดที่เน้นที่ส่วน คอ ไหล่ และศีรษะ ซึ่งด้วยการลงน้ำหนักมือที่พอดี สัมผัสที่อ่อนโยน ทำให้การนวดสามารถช่วยคลายความตึงเครียด อีกทั้งยังบรรเทาความรุนแรง และความถี่ของอาการปวดหัวได้ […]

The post ประโยชน์ของการนวดไทยในการบรรเทาอาการ appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
การนวดเป็นศาสตร์แห่งการฟื้นฟูบำบัดร่างกายที่ถูกส่งต่อมานานหลายศตวรรษ และเมื่อนำมาใช้ประกอบกับองค์ความรู้ด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าขึ้นมากในปัจจุบัน การนวดจึงเป็นมากกว่าการผ่อนคลายร่างกาย แต่ยังถูกประยุกต์นำมาเป็นทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ อีกด้วย และสำหรับใครที่สงสัยว่า อาการหรือโรคใดที่บรรเทาได้โดยการนวดบ้าง? บทความนี้มีคำตอบ ติดตามได้เลย

 

โรคใดที่บรรเทาได้โดยการนวด

อาการหรือโรคใดที่บรรเทาได้โดยการนวดบ้าง? คำตอบแรกของคำถามนี้คือ ‘ความเครียดและความวิตกกังวล’ ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในอาการที่คนยุคนี้ประสบมากที่สุด สาเหตุจากชีวิตประจำวันที่ต้องแบกรับภาระและความรับผิดชอบมากมาย อย่างไรก็ตาม การนวดสามารถบรรเทาอาการนี้ได้ โดยเมื่อร่างกายถูกสัมผัสอย่างอ่อนโยนและถูกต้องตามวิธีการ สารเอ็นดอร์ฟินและเซโรโทนินซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับความสุขจะถูกกระตุ้นให้หลั่งออกมาแทนที่ความเครียด ซึ่งเมื่อความเครียดเบาบางลง ความวิตกกังวลก็ย่อมน้อยลงเช่นกัน สวนทางอารมณ์และสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

คลายความตึงและปวดของกล้ามเนื้อ

เนื่องจากลักษณะการทำงานที่ส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวันของผู้คนในยุคปัจจุบัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดการปวดหรือตึงของกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการนวด เนื่องจากประโยชน์ของการนวดไทยอีกหนึ่งข้อคือการคลายความตึงเครียดที่สะสมอยู่ในมัดกล้ามเนื้อ ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ซึ่งช่วยลดอาการปวดหรือตึงกล้ามเนื้อได้ นอกจากนี้ การนวดยังมีส่วนในการลดการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมอง ทำให้ความเจ็บปวดบรรเทาเบาบางลง ด้วยเหตุนี้ นักกีฬาอาชีพ รวมถึงบุคคลที่มีอาการเรื้อรัง เช่น โรคไฟโบรไมอัลเจียหรือโรคข้ออักเสบนิยมใช้การนวดเป็นหนึ่งในทางเลือกการรักษา

ปวดหัวและไมเกรน

นอกจากจะเป็นความเจ็บปวดที่ไม่มีใครอยากประสบแล้ว อาการปวดหัวและไมเกรนยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว รวมถึงคุณภาพชีวิตโดยรวมอีกด้วย ดังนั้น ถ้าสามารถบรรเทาลงได้ก็ย่อมเป็นเรื่องดี ซึ่งประโยชน์ของการนวดไทยก็ครอบคลุมถึงอาการนี้ด้วย โดยจะเป็นการนวดที่เน้นที่ส่วน คอ ไหล่ และศีรษะ ซึ่งด้วยการลงน้ำหนักมือที่พอดี สัมผัสที่อ่อนโยน ทำให้การนวดสามารถช่วยคลายความตึงเครียด อีกทั้งยังบรรเทาความรุนแรง และความถี่ของอาการปวดหัวได้ นอกจากนั้น ยังมีรายงานทางการแพทย์หลายฉบับที่ระบุว่า การนวดเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นไมเกรนได้อีกด้วย

นอนไม่หลับ

อาการหรือโรคใดที่บรรเทาได้โดยการนวดบ้าง?…อีกหนึ่งคำตอบที่เชื่อว่ารู้แล้วน่าจะอยากไปนวดมากขึ้นคือ ‘อาการนอนไม่หลับ’ เนื่องจากการนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี แต่ปัญหาคือคนยุคนี้กลับประสบกับอาการนอนไม่หลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งการนวดจะปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับโดยการลดความเครียด ความวิตกกังวล และความเจ็บปวด นอกจากนั้นความผ่อนคลายจากการนวดยังช่วยเพิ่มการผลิตเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับอีกด้วย

ประโยชน์ของการนวดไทย มีอะไรบ้าง

 

เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งประโยชน์ของการนวดไทยที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง นั่นคือการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีรายงานทางการแพทย์ตีพิมพ์ข้อมูลว่า การนวดเป็นประจำจะช่วยเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกันโดยเพิ่มการทำงานของเซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ (Natural killer cells หรือ NK cells) และเมื่อภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ร่างกายก็ติดเชื้อได้ยากขึ้น สุขภาพโดยรวมก็ย่อมดีขึ้นเช่นกัน

บรรเทาอาการด้วยการนวดที่ Let’s Relax Spa

ถึงตรงนี้ ทุกคนคงได้ทราบแล้วว่าอาการหรือโรคใดที่บรรเทาได้โดยการนวดบ้าง และถ้าใครสนใจอยากให้การนวดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี สามารถมาได้ที่ Let’s Relax Spa ร้านนวด สปา สปานวดตัว สปาผิว ออนเซ็น ที่มีสาขาทั้งกรุงเทพฯ และทั่วประเทศรวมกว่า 50 สาขา พร้อมให้คุณดื่มด่ำไปกับความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ปรับอารมณ์ให้สดชื่นด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดโดยเฉพาะ จองแพ็กเกจที่ใช่ผ่านทางออนไลน์ได้เลยที่ https://booking.letsrelaxspa.com/book หรือ LINE Official https://lin.ee/QxwQOB1 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-641-6619

The post ประโยชน์ของการนวดไทยในการบรรเทาอาการ appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
https://letsrelaxspa.com/th/relieving-symptoms-by-massage/feed/ 0
หมดสงสัย! นวดสวีดิช VS นวดประคบหินร้อน ต่างกันอย่างไร? https://letsrelaxspa.com/th/swedish-massage-vs-hot-stone-massage/ https://letsrelaxspa.com/th/swedish-massage-vs-hot-stone-massage/#respond Wed, 12 Jul 2023 07:44:26 +0000 https://letsrelaxspa.com/?p=23143 ในปัจจุบัน ศาสตร์การนวดผ่อนคลายได้พัฒนาและเกิดขึ้นใหม่มากมาย จนทำให้ผู้ที่ต้องการใช้บริการหลายคนเกิดความสับสนอยู่ไม่น้อย ว่าควรเลือกนวดแบบใดให้ตอบโจทย์ความผ่อนคลายของทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนวดสวีดิชและการนวดหินร้อนที่มีรายละเอียดและขั้นตอนการนวดที่คล้ายคลึงกัน จนทำให้คนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่า ควรเลือกนวดแบบไหนถึงจะเหมาะกับร่างกายของเราที่สุด หากคุณเป็นอีกคนที่สงสัยเช่นเดียวกันนี้อยู่ ลองมาดูรายละเอียดแบบจุดต่อจุดระหว่างการนวดสวีดิช VS นวดประคบหินร้อนที่นำมาฝากในวันนี้กัน นวดสวีดิชคืออะไร? ก่อนที่จะไปดูถึงความแตกต่างและข้อเปรียบเทียบระหว่างการนวดสวีดิช VS นวดประคบหินร้อน ทุกคนจำเป็นที่จะต้องเข้าใจรายละเอียดของการนวดทั้งสองรูปแบบกันก่อน โดยในส่วนนี้จะขอเริ่มจากการนวดสวีดิช การนวดสวีดิช (Swedish Massage) คือ ศาสตร์การนวดขั้นพื้นฐานตามแบบฉบับของชาวยุโรป หรือที่ใครหลายคนอาจรู้จักในชื่อของ Classic Massage โดยการนวดสวีดิชจะมุ่งเน้นไปที่การผ่อนคลายและลดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อเป็นหลัก ดังนั้น เทคนิคการนวดส่วนใหญ่จึงจะไม่มีการบีบเค้นอย่างหนักหน่วงเหมือนการนวดแผนไทย แต่จะเน้นไปที่ 5 เทคนิคหลัก ซึ่งจะประกอบไปด้วย เทคนิคการลูบ เป็นการใช้ฝ่ามือออกแรงกดตามเส้นเลือดดำ เทคนิคการบีบ เป็นการรีด เค้น และคลึงจุดมัดรวมกล้ามเนื้อ มัดกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่ออ่อน เทคนิคการเคาะ เป็นการใช้สันมือ ปลายนิ้ว การกำหมัดและแบมือ เพื่อทำการตบ ตี และเคาะกล้ามเนื้อมัดต่าง ๆ ให้เป็นจังหวะ เทคนิคการกด เป็นการใช้มือและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผู้นวด เพื่อส่งแรงกดไปที่ข้อต่อ […]

The post หมดสงสัย! นวดสวีดิช VS นวดประคบหินร้อน ต่างกันอย่างไร? appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
ในปัจจุบัน ศาสตร์การนวดผ่อนคลายได้พัฒนาและเกิดขึ้นใหม่มากมาย จนทำให้ผู้ที่ต้องการใช้บริการหลายคนเกิดความสับสนอยู่ไม่น้อย ว่าควรเลือกนวดแบบใดให้ตอบโจทย์ความผ่อนคลายของทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนวดสวีดิชและการนวดหินร้อนที่มีรายละเอียดและขั้นตอนการนวดที่คล้ายคลึงกัน จนทำให้คนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่า ควรเลือกนวดแบบไหนถึงจะเหมาะกับร่างกายของเราที่สุด
หากคุณเป็นอีกคนที่สงสัยเช่นเดียวกันนี้อยู่ ลองมาดูรายละเอียดแบบจุดต่อจุดระหว่างการนวดสวีดิช VS นวดประคบหินร้อนที่นำมาฝากในวันนี้กัน

นวดหินร้อนดีไหม เหมาะกับใครบ้าง?

นวดสวีดิชคืออะไร?

ก่อนที่จะไปดูถึงความแตกต่างและข้อเปรียบเทียบระหว่างการนวดสวีดิช VS นวดประคบหินร้อน ทุกคนจำเป็นที่จะต้องเข้าใจรายละเอียดของการนวดทั้งสองรูปแบบกันก่อน โดยในส่วนนี้จะขอเริ่มจากการนวดสวีดิช
การนวดสวีดิช (Swedish Massage) คือ ศาสตร์การนวดขั้นพื้นฐานตามแบบฉบับของชาวยุโรป หรือที่ใครหลายคนอาจรู้จักในชื่อของ Classic Massage โดยการนวดสวีดิชจะมุ่งเน้นไปที่การผ่อนคลายและลดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อเป็นหลัก ดังนั้น เทคนิคการนวดส่วนใหญ่จึงจะไม่มีการบีบเค้นอย่างหนักหน่วงเหมือนการนวดแผนไทย แต่จะเน้นไปที่ 5 เทคนิคหลัก ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  1. เทคนิคการลูบ เป็นการใช้ฝ่ามือออกแรงกดตามเส้นเลือดดำ
  2. เทคนิคการบีบ เป็นการรีด เค้น และคลึงจุดมัดรวมกล้ามเนื้อ มัดกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่ออ่อน
  3. เทคนิคการเคาะ เป็นการใช้สันมือ ปลายนิ้ว การกำหมัดและแบมือ เพื่อทำการตบ ตี และเคาะกล้ามเนื้อมัดต่าง ๆ ให้เป็นจังหวะ
  4. เทคนิคการกด เป็นการใช้มือและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผู้นวด เพื่อส่งแรงกดไปที่ข้อต่อ มัดกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อชั้นลึกคลายตัวออก อีกทั้งยังสามารถช่วยคลายพังผืดได้อีกด้วย
  5. เทคนิคเขย่า เป็นการใช้ฝ่ามือ สันมือ หรือเทคนิคพิเศษในการเขย่ากล้ามเนื้อเป็นจังหวะ ช่วยทำให้กล้ามเนื้อชั้นลึกคลายตัว

 

ข้อดี – ข้อควรระวัง ของการนวดสวีดิช

 

การนวดสวีดิช ไม่เพียงแต่จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตั้งแต่ชั้นบนไปจนถึงชั้นลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตที่นอกจากจะทำให้ผิวพรรณผ่องใสแล้ว ยังถือเป็นการเสริมการทำงานของระบบกำจัดของเสียและระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ดี การนวดสวีดิชเป็นเทคนิคการผ่อนคลายที่ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคติดต่อ รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก ภาวะผิดปกติทางเลือด และโรคผิวหนังทั้งแบบติดเชื้อและไม่ติดเชื้อทุกชนิด เนื่องจากการนวดสวีดิชจะเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทั้งยังมีแรงเค้นและกดจำนวนมากที่อาจทำให้เกิดความรุนแรงของโรคมากขึ้น จนเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

นวดสวีดิช VS นวดประคบหินร้อน

นวดหินร้อนคืออะไร?

จบในส่วนของการนวดสวีดิชไปแล้ว ทีนี้ลองมาทำความเข้าใจถึงการนวดแบบประคบหินร้อน หรือ การนวดหินร้อนกันบ้าง

การนวดหินร้อน (Hot Stone Massage) คือ ศาสตร์การนวดที่จะนำหินร้อนมานวดกดจุดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแทนการใช้ฝ่ามือ โดยความร้อนจากหินจะกระจายเข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อและผิวหนัง ทำให้ลดอาการปวด เกร็ง และความเมื่อยล้าที่บริเวณกล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ อุณหภูมิความร้อนของหินที่เหมาะสมยังสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้รู้สึกผ่อนคลาย ผิวหนังดูเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังรู้สึกเบาตัวขึ้นหลังจากนวดเสร็จอีกด้วย

อย่างไรก็ดี เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นการนวดหินร้อน เป็นธรรมดาที่ใครหลายคนคงสงสัยถึงประเภทและระดับความร้อนของหินที่นำมานวด แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว การนวดประคบหินร้อนมักจะนิยมใช้หินภูเขาไฟอย่างหินบะซอลต์มาทำการอบให้ได้อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส
โดยหินภูเขาไฟจะเป็นหินที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวา ซึ่งนอกจากจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผิวและระบบภายในร่างกายแล้ว ตัวหินยังมีน้ำหนักเบา เก็บความร้อนได้สูง อีกทั้งยังมีผิวที่เรียบลื่น เมื่อนำมาเจียระไนให้มีขนาดที่เหมาะสมกับการนวดกล้ามเนื้อแต่ละประเภทแล้วจะทำให้สามารถเข้าถึงการหดเกร็ง พังผืด และข้อต่อสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยคุณสมบัติพิเศษของหินภูเขาไฟที่ผสานเข้ากับการนวดโดยผู้เชี่ยวชาญนี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมใครหลายคนถึงรู้สึกผ่อนคลายทั้งกายและใจหลังจากนวดหินร้อน

ข้อดี – ข้อควรระวังของการนวดหินร้อน

 

การนวดประคบหินร้อน ไม่เพียงแต่จะช่วยลดอาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ความร้อนของหินที่พอเหมาะยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและผิวหนังได้ เมื่อผสานเข้ากับแร่ธาตุจากหินภูเขาไฟด้วยแล้วก็จะทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งมากขึ้น อีกทั้งความอุ่นของหินที่กำลังพอดียังช่วยให้ร่างกายหลั่งเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี การนวดหินร้อนเป็นการนวดเฉพาะทางที่ต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจในการกดจุดและควบคุมอุณหภูมิของหินที่เหมาะสม มิเช่นนั้นอาจทำให้ผิวหนังพุพองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีผิวหนังบอบบางแพ้ง่าย นอกจากนี้ การนวดด้วยหินร้อนยังไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิต ผู้ป่วยมะเร็ง เบาหวาน ไปจนถึงผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์ เนื่องจากความร้อนจากหินสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ระดับน้ำตาล และฮอร์โมนบางชนิด ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
 

สรุปชัด! นวดสวีดิช VS นวดประคบหินร้อน ต่างกันอย่างไร?

สำหรับใครที่อ่านมาถึงจุดนี้แล้วยังไม่แน่ใจว่า การนวดสวีดิชนั้นแตกต่างจากการนวดหินร้อนอย่างไร ลองมาดูสรุปตารางเทียบความแตกต่างระหว่างการนวดทั้ง 2 แบบ ดังนี้

ข้อเปรียบเทียบ การนวดสวีดิช การนวดหินร้อน
เทคนิคการนวด ผสมผสาน 5 เทคนิคการนวด ใช้หินภูเขาไฟอบอุณหภูมิ 50 – 60 องศาเซลเซียสรวมกับเทคนิคการกดจุดนวด
ประโยชน์จากการนวด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกชั้น
กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อชั้นลึก
กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
ได้คุณประโยชน์จากแร่ธาตุในหินภูเขาไฟ
ใครห้ามนวดบ้าง ห้ามผู้ป่วยมะเร็ง เบาหวาน ภาวะความผิดปกติเกี่ยวกับระบบการไหลเวียนเลือด และโรคติดต่อนวดโดยเด็ดขาด

ผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตและภาวะกระดูกพรุน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน

ห้ามนวดหินร้อนให้กับผู้ป่วยมะเร็ง เบาหวาน ภาวะความผิดปกติเกี่ยวกับระบบการไหลเวียนเลือด โรคติดต่อ โรคความดันโลหิตและ ไทรอยด์

ผู้ที่มีผิวหนังบอบบาง ภาวะกระดูกพรุน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้บริการทุกครั้ง

 

จะเห็นได้ว่า ทั้งการนวดสวีดิชและการนวดหินร้อนมาพร้อมกับประโยชน์ในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อเหมือนกัน แต่การนวดหินร้อนจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุมทั้งการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การสร้างสมดุลระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย อีกทั้งยังได้รับคุณประโยชน์จากแร่ธาตุในหินภูเขาไฟ ซึ่งนอกจากจะช่วยฟื้นบำรุงและขับของเสียจากผิวแล้ว ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวกลับมาดูสุขภาพดีขึ้นได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี การนวดทั้งสองแบบก็มีข้อจำกัดทางร่างกายที่แตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย อย่าลืมตรวจสอบสุขภาพร่างกายของตัวเอง พร้อมขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงก่อนรับบริการนวดทุกครั้ง

Let’s Relax Spa มาพร้อมกับบริการนวดหินร้อนและโปรแกรมการผ่อนคลายเฉพาะบุคคลที่ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ หากยังตัดสินใจเลือกไม่ถูกว่าควรนวดแบบใดให้ตอบโจทย์กับความต้องการ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก Let’s Relax Spa เพื่อเลือกโปรแกรมการนวดที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้ววันนี้กับทุกสาขาทั่วไทย หรือสามารถจองเวลานวดในสาขาที่ต้องการได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางดังนี้

The post หมดสงสัย! นวดสวีดิช VS นวดประคบหินร้อน ต่างกันอย่างไร? appeared first on Let's Relax Spa.

]]>
https://letsrelaxspa.com/th/swedish-massage-vs-hot-stone-massage/feed/ 0