ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย ‘การสครับผิว’ ยังคงเป็นหนึ่งในเคล็ดลับผิวกระจ่างใสที่ใครต่อใครต่างแนะนำและบอกต่อ โดยนอกจากจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกเพื่อเผยผิวกระจ่างใสแล้ว การสครับผิวยังถือเป็นการทำสปาที่ช่วยมอบความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจไปพร้อมกันด้วย
แล้วการสครับขัดผิวช่วยอะไรได้บ้าง จำเป็นแค่ไหน ควรเลือกการสครับผิวอย่างไรให้เหมาะสมและเห็นผลลัพธ์ที่ตรงใจ มาดู 5 เรื่องสำคัญของการสครับผิวที่นำมาฝากในบทความนี้ เพื่อช่วยให้ทุกคนเลือกโปรแกรม หรือ ผลิตภัณฑ์สครับผิวที่ตอบโจทย์ความต้องการกัน
การสครับผิว คือ การขัดทำความสะอาดผิวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทั้งยังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปจากบริเวณผิวหนัง ทำให้สามารถเผยผิวที่เนียนนุ่มและดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
แม้จะเป็นเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวที่หลายคนแนะนำ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยสงสัยเช่นกันว่า การสครับขัดผิวช่วยอะไรและมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน คำตอบ คือ การสครับผิวสามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพของกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ของร่างกายได้
โดยทั่วไปแล้ว ผิวหนังของมนุษย์จะทำการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทุก 21 วัน หากวันใดที่ร่างกายมีความผิดปกติ อายุเพิ่มขึ้น หรือมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวอย่างการดื่มน้ำน้อย นอนดึก ไปจนถึงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ผิวของเราก็จะผลัดเซลล์ผิวช้าลง ทำให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวเก่าและใหม่ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวดูหมองคล้ำขึ้นแล้ว เซลล์ผิวที่ทับถมกันนี้ยังสามารถเข้าไปอุดตันรูขุมขนจนเกิดเป็นปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้
จะเห็นได้ว่า การสครับผิว คือ หนึ่งในเคล็ดลับดูแลสุขภาพผิวที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ดี การจะสครับให้ผิวดูสุขภาพดีและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติจำเป็นต้องเลือกสครับที่เหมาะสมเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว สครับที่นำมาขัดผิวได้จะมีส่วนประกอบด้วยกัน 2 ส่วนหลัก คือ
มีตั้งแต่เม็ดสครับพลาสติกสังเคราะห์อย่างโจโจบาบีดส์ที่มีความอ่อนโยนและไม่สร้างความเสียหายให้กับผิว ไปจนถึงเม็ดสครับจากธรรมชาติอย่างเกล็ดอัลมอนด์ กากกาแฟ เมล็ดข้าวโพด เมล็ดสตรอว์เบอร์รี เกลือ น้ำตาล ตลอดจนสมุนไพรบดละเอียด เช่น ขมิ้นบด ทานาคา และว่านนางคำ
ส่วนผสมในส่วนนี้จะมีความแตกต่างกันไปตามสูตรของผู้ผลิตแต่ละแห่ง เช่น มีการนำน้ำมันที่มีสรรพคุณช่วยดูแลผิวอย่างน้ำมันอัลมอนด์ หรือ น้ำมันมะพร้าวมาผสม ไปจนถึงการใส่น้ำมันหอมระเหยที่ช่วยปรับสมดุลร่างกาย รวมถึงมีส่วนผสมอย่างน้ำผึ้ง น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว ตลอดจนการนำผงถ่านชาโคลมาผสมเพื่อช่วยในเรื่องของการดีท็อกซ์ผิว เป็นต้น
ผิวแต่ละประเภทมีความต้องการที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องเลือก ‘เนื้อสัมผัส’ ของสครับที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งหากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกสครับแบบไหนให้ตอบโจทย์ ลองมาพิจารณาการเลือกผลิตภัณฑ์สครับตามเช็กลิสต์ ดังนี้
นอกจากจะพิจารณาตามสภาพผิวแล้ว การเลือกผลิตภัณฑ์สครับยังต้องคำนึงถึงบริเวณที่จะนำไปใช้งานด้วย
แม้จะเป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่เพื่อเผยผิวกระจ่างใส แต่การสครับผิวที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ชั้นผิวบางและเสี่ยงต่อการระคายเคืองได้ง่าย
นอกจากนี้ หากยิ่งสครับผิวบ่อย สครับผิวด้วยความรุนแรง หรือ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สครับที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณและสภาพผิว ชั้นผิวของเราก็จะยิ่งอ่อนแอลง แถมยังคล้ำเสียได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย
ดังนั้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพผิวที่มีประสิทธิภาพ ขอแนะนำให้สครับผิวเพียง 1 – 2 ครั้ง/สัปดาห์ หรือ สครับผิวเพียง 1 ครั้ง/เดือน ทั้งนี้เพื่อไม่รบกวนกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ
เพื่อช่วยให้เห็นผลลัพธ์ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเป็นการช่วยดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ขอแนะนำให้เตรียมตัวก่อน – หลังสครับผิว ดังนี้
ก่อนสครับผิว:
หลังสครับผิว:
การสครับผิวเป็นหนึ่งในเคล็ดลับการเสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรงได้ แน่นอนว่าเมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ ใคร ๆ ก็สามารถเลือกโปรแกรมสครับผิวที่ตอบโจทย์และดีต่อใจได้อย่างแน่นอน
Let’s Relax Spa ร้านสปาผิวใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมชวนคุณมาผ่อนคลายทั้งกายใจไปกับโปรแกรมปรนนิบัติสครับผิวจากผู้เชี่ยวชาญ รองรับความต้องการแบบครบครันด้วยผลิตภัณฑ์สครับธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว ตอบโจทย์ผลลัพธ์ผิวกระจ่างใสสุขภาพดี เนียนนุ่มจนใคร ๆ ก็หลงรัก
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกโปรแกรมสครับผิวที่เหมาะสมได้แล้วที่ Let’s Relax ทุกสาขาทั่วไทย หรือ จองใช้บริการสปาผิวที่ต้องการได้ด้วยตัวเองที่